1.    SALERVICE คือ อะไร

 SALERVICE เป็นคำผสม ระหว่างคำว่า “SALE” แปลว่า การขาย และคำว่า “SERVICE” แปลว่า การให้บริการ เพื่อสื่อความหมายว่า แพลตฟอร์มนี้เป็นสื่อกลางระหว่างผู้ประกอบการกับลูกค้าในธุรกิจทุกประเภทที่ให้ลูกค้าสามารถค้นหาสินค้าและบริการได้อย่างหลากหลาย รวมถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ของสินค้าและบริการในแต่ละธุรกิจที่จะถูกรวบรวมมาไว้ในที่แห่งเดียว

SALERVICE เป็นแพลตฟอร์มในรูปแบบ O2O Social Marketplace กล่าวคือ  เป็นแพลตฟอร์มที่สนับสนุนให้ผู้ประกอบการที่มีหน้าร้านหรือสถานที่ตั้ง (Offline (Physical) Presence) อยู่แล้ว สามารถเปิดช่องทางการขายหรือให้บริการแบบออนไลน์ หรือในกรณีผู้ประกอบการแบบออนไลน์ (Online Presence) ประสงค์ที่จะสร้างความเชื่อมั่นหรือสื่อสารกับลูกค้าในช่องทางออฟไลน์มากขึ้น เห็นได้ว่าการประกอบธุรกิจแบบ O2O นั้น สามารถทำให้การซื้อขายสินค้า หรือให้บริการแก่ลูกค้าครอบคลุมและหลากหลายมากขึ้นโดยการประกอบธุรกิจทั้งสองรูปแบบ (Hybrid) อันเป็นการปิดจุดอ่อนและสร้างจุดแข็งของลักษณะการประกอบธุรกิจในรูปแบบ Offline หรือ Online เพียงรูปแบบเดียว 

นอกจากนี้ SALERVICE  ยังมีฟีเจอร์ที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการทุกธุรกิจเป็นที่รู้จักในโซเชียลมีเดียมากขึ้นด้วยฟีเจอร์ Rating, Review และ Share ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถศึกษาและเรียนรู้ประสบการณ์หรือความคิดเห็นของลูกค้าคนก่อน ๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนการซื้อหรือใช้บริการ และนอกจากนี้ ยังสามารถค้นหาร้านค้า หรือสถานที่ให้บริการได้แม้ลูกค้าจะไม่เคยไปในสถานที่นั้นๆ มาก่อน โดยไม่ต้องเสียเวลาในการค้นหาข้อมูลที่มีอยู่อย่างกระจัดกระจายในโลกออนไลน์                       

เราให้ความสำคัญในทุกรายละเอียด โดยมิได้มุ่งหวังเพียงให้ผู้ประกอบการเป็นที่รู้จักของลูกค้าเฉพาะสินค้าหรือบริการเท่านั้น เรายังมีพื้นที่ให้ผู้ประกอบการได้เพิ่มรูปภายในร้านค้า และบรรยายรายละเอียดข้อมูลต่าง ๆ รวมถึงสถานที่ตั้งในส่วนโปรไฟล์ร้านค้า เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถแสดงเอกลักษณ์ ความพิเศษหรือความแตกต่าง แนวความคิด และสิ่งอื่นที่ผู้ประกอบการต้องการสื่อไปถึงลูกค้าด้วย เพราะบางครั้งการที่ลูกค้าได้เห็นภาพสินค้าเพียงอย่างเดียว อาจยังไม่เพียงพอที่จะสร้างความประทับใจหรือความแตกต่างที่ทำให้ลูกค้าจดจำได้ แต่ยังคงต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าด้วย

สำหรับฟีเจอร์หลักๆ ของ SALERVICE มีดังนี้

1. Like -   ถูกใจสินค้า บริการหรือร้านค้า

2. Map Location -   ปักหมุดร้านค้า

3. Message -   ส่งข้อความระหว่างผู้ประกอบการกับลูกค้า

4. Rating -   ให้คะแนนสินค้า บริการหรือร้านค้า 

5. Review -   รีวิวหรือแสดงความคิดเห็นสินค้า บริการหรือร้านค้า 

6. Share    -   แชร์สินค้า บริการ ร้านค้าให้กับเครือข่ายหรือคนรู้จัก

7. Webboard -   ตั้งกระทู้ คำถาม ตอบคำถาม ให้ความรู้และข้อมูลต่าง ๆ 

8. Wishing List -   บันทึกสินค้าที่สนใจเก็บไว้ดูภายหลังได้


2. แนวความคิดและที่มา

ปัจจุบันเป็นยุคที่มีเทคโนโลยีทันสมัย มีช่องทางให้ประชาชนได้เรียนรู้ ศึกษาค้นคว้าในด้านต่าง ๆ  รวมถึงการทำธุรกิจเพิ่มมากขึ้นกว่าในอดีตมาก แต่เทคโนโลยีที่ทันสมัยดังกล่าวสามารถเข้ามามีส่วนช่วยยกระดับเศรษฐกิจ สังคมและการศึกษาให้คุณภาพชีวิตของผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลางมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้ไม่มากนัก และยังคงขาดช่องทางในการหารายได้หรือแม้แต่ขาดโอกาสทางการศึกษาอยู่เช่นเดิม 

การที่ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีแหล่งทรัพยากรธรรมชาติสมบูรณ์ มีทำเลที่ตั้งที่มีเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศและติดชายฝั่งทะเล อีกทั้งยังมีสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศเหมาะสมในการทำการเกษตร สามารถสร้างผลผลิตทางการเกษตรได้เป็นจำนวนมาก แต่เกษตรกรส่วนใหญ่กลับเป็นผู้มีรายได้น้อยและบางรายอาจประสบภาวะขาดทุนและมีหนี้สินจากการทำการเกษตร ซึ่งการมีรายได้น้อยและมีหนี้สินเป็นจำนวนมาก จึงทำให้เกษตรกรส่วนใหญ่ขาดโอกาสเรียนรู้ หรือไม่มีเงินทุนมากเพียงพอในการพัฒนาผลผลิตให้มากขึ้นและมีคุณภาพดีขึ้นพร้อมทั้งขายผลผลิตดังกล่าวทั้งหมดได้ โดยปัญหาส่วนหนึ่งที่จะต้องแก้ไข คือ การทำให้เกษตรกรสามารถเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรได้มากขึ้นและในราคาที่สูงขึ้นด้วย โดยหากเกษตรกรยังคงถูกกดราคาสินค้าเกษตรเพราะไม่สามารถหาช่องทางขายสินค้าให้ได้มากขึ้น จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาการมีรายได้น้อยและการถูกเอาเปรียบที่มีมาอย่างยาวนานได้

นอกจากปัญหาข้างต้นแล้ว การที่กลุ่มธุรกิจรายใหญ่ทุกภาคส่วน ต่างปรับกลยุทธ์ในการขายโดยหันมาทำการตลาดและเปิดช่องทางขายทางออนไลน์ควบคู่ไปด้วยเนื่องจากความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและพฤติกรรมของลูกค้าในการซื้อของเปลี่ยนแปลงไป  ทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยที่ยังคงประกอบธุรกิจในรูปแบบเดิม ต้องประสบปัญหาจากการที่ไม่สามารถแข่งขันกับกลุ่มธุรกิจรายใหญ่ และเป็นผลให้ผู้ประกอบการรายย่อยต้องปิดตัวลง 

โดยปัญหาข้างต้น ก่อเกิดมาอย่างยาวนานก่อนจะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และปัญหาราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซหุงต้มที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้สินค้าอุปโภคบริโภคหลายประเภทอาหารปรับตัวสูงขึ้นมาก และรายได้ของกลุ่มผู้ใช้แรงงานจะเพิ่มมากขึ้น แต่ยังไม่เพียงพอกับค่าครองชีพและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน จึงทำให้ดูเหมือนว่า การเพิ่มค่าแรงดังกล่าวไม่เป็นการช่วยเหลือหรือบรรเทาภาระให้กับผู้ใช้แรงงานอย่างแท้จริง และกลับเพิ่มภาระให้ผู้ประกอบการที่ต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้น และจากต้นทุนในส่วนค่าแรงที่สูงขึ้นจึงถูกบวกกลับมาในราคาสินค้าและค่าบริการทำให้สินค้ามีราคาแพง และผู้ใช้แรงงานเหล่านั้น ต้องนำค่าแรงที่ได้เพิ่มมาซื้อสินค้าที่แพงขึ้นเช่นเดิม ยิ่งไปกว่านั้นในบางกรณี ผู้ประกอบการบางรายปลดคนงานเพื่อนำเทคโนโลยีหรือเครื่องจักรมาทดแทนแรงงานดังกล่าวเพื่อลดต้นทุนด้วย หรือบางกิจการยังมีคู่แข่งทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศเพิ่มขึ้น ทำให้ต้องปรับลดราคาลง ซึ่งมีหลายกิจการที่ต้องปิดตัวลง และส่งผลกระทบกลับมาที่กลุ่มผู้ใช้แรงงานที่ต้องตกงาน หากไม่สามารถหางานใหม่หรือช่องทางหารายได้อื่นมาทดแทนได้ ทำให้ภาวะเศรษฐกิจและสังคมยิ่งตึงเครียด โดยเห็นจากการนำเสนอข่าวการอยู่กินอย่างยากลำบาก ท้อแท้ของคนภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง 

ดังนั้น เราจึงมองหาแนวทางที่จะช่วยส่งเสริมและสนับสนุนทุกธุรกิจตั้งแต่ระดับธุรกิจขนาดเล็กเป็นต้นไปให้มีโอกาสเปิดตลาดหรือหากลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังรวมถึงการเปิดโอกาสให้กลุ่มแรงงานที่ไม่ได้ใช้ทักษะ หรือใช้ทักษะสามารถหางานทำได้ง่ายและรวดเร็วมากขึ้น ทั้งนี้ เรามีความเชื่อว่าถ้าเศรษฐกิจดี ประชากรในประเทศมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ประชากรจะมีโอกาสในการศึกษามากขึ้นและช่วยยกระดับคุณภาพสังคมในประเทศให้ดีขึ้นด้วยเช่นกัน


3. วิสัยทัศน์และพันธกิจ  

การที่ SALERVICE เป็นแพลตฟอร์มในรูปแบบ O2O Social Marketplace นั้น เราจึงทำหน้าที่เป็นสื่อกลางระหว่างผู้ประกอบการและผู้บริโภค โดยนอกจากการสนับสนุนฝั่งผู้ประกอบการให้ธุรกิจเป็นที่รู้จัก เหมาะสมกับความก้าวหน้าและเทคโนโลยีปัจจุบันแล้ว เราจึงให้ความสำคัญกับฝั่งผู้บริโภคด้วย การที่ในปัจจุบันมีการขายสินค้าผ่านทางออนไลน์เป็นจำนวนมาก และจึงทำให้มีปัญหาอันเกิดจากการซื้อสินค้าออนไลน์มากมายเช่นเดียวกัน โดยปัญหาส่วนหนึ่งเกิดจากการที่ผู้บริโภคไม่สามารถทราบชื่อผู้ประกอบการขายสินค้าที่แน่นอนว่าเป็นใคร มีที่อยู่หรือสถานประกอบการอยู่ที่ใด เพราะเป็นการซื้อขายผ่านทางโซเชียลมีเดียหรือเว็บไซต์ที่ไม่ใช่เว็บไซต์ของผู้ประกอบการขายสินค้าดังกล่าวโดยตรง จึงทำให้ผู้ประกอบการหลายรายอาศัยช่องทางดังกล่าวโฆษณาสินค้าอันมีลักษณะทำให้เข้าใจผิดในคุณสมบัติหรือลักษณะสินค้า หรืออธิบายคุณลักษณะของสินค้าไม่ชัดเจน จึงทำให้การติดตามเอาเงินคืนนั้นทำได้ยาก และทำให้ลูกค้าตัดความรำคาญไม่ดำเนินคดีหรือดำเนินการใด ๆ แม้จะไม่ได้รับสินค้าหรือได้รับสินค้าไม่ตรงตามความต้องการก็ตาม เพราะเห็นว่าค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีนั้นไม่คุ้มค่ากับค่าดำเนินคดี ปัญหานี้มิใช่เกิดผลกระทบกับฝ่ายลูกค้าฝ่ายเดียวเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการที่สุจริตรายอื่นด้วยเพราะทำให้ในปัจจุบันลูกค้าเริ่มเกิดความไม่มั่นใจและตัดสินใจซื้อกับผู้ประกอบการที่สุจริตที่ไม่เกี่ยวข้องด้วย

นอกจากประเด็นดังกล่าวข้างต้น ในเวลาที่ลูกค้าหรือแม้กระทั่งผู้ประกอบการเองต้องการค้นหาสินค้าหรือบริการที่มิได้มีอยู่ทั่วไปหรือมีเพียงจำนวนน้อย  บางครั้งการค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต ยังไม่สามารถค้นพบสิ่งที่ต้องการได้ หรือเปรียบเทียบสินค้าหรือบริการได้ตามต้องการ เพราะต้องอาศัยการกำหนดคีย์เวิร์ด ที่ต้องการค้นหาให้ถูกต้องหรือมีความใกล้เคียงมากที่สุด ซึ่งบางครั้งถือเป็นเรื่องยาก และไม่แน่นอนว่าข้อมูลที่ค้นหานั้นมีความถูกต้องหรือล่าสุดเป็นปัจจุบันเพียงใด และหากสินค้าดังกล่าวมีราคาสูง จะทำให้ลูกค้าเกิดความไม่มั่นใจในการซื้อสินค้า หรือลูกค้าอาจจะต้องการเห็นสินค้าจริงก่อนตัดสินใจซื้อด้วย อีกทั้ง ยังคงมีผู้ประกอบการอีกหลายรายที่ไม่ได้นำข้อมูลธุรกิจของตนเองนำขึ้นบนอินเตอร์เน็ต หรือไม่มีบุคคลอื่นกล่าวถึงในโซเชียลมีเดีย จึงทำให้ผู้ประกอบการไม่เป็นที่รู้จักหรือถูกค้นหาผ่านทางอินเตอร์เน็ตได้เลย 

ดังนั้น การประกอบธุรกิจในรูปแบบ O2O จึงช่วยทำให้ลูกค้าได้รู้จักผู้ประกอบการมากขึ้น รวมถึงเพิ่มจำนวนทางเลือก และลดความเสี่ยงในการได้รับสินค้าที่ไม่ตรงตามความต้องการหรือไม่มีคุณภาพ และทำให้การประกอบธุรกิจออนไลน์มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น และสอดคล้องกับความต้องการซื้อที่เพิ่มมากขึ้นอันเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้นในยุคปัจจุบันและในอนาคตต่อไป และยังสามารถให้บริการลูกค้า และสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าผ่านทางหน้าร้านได้มากขึ้นด้วย

เราให้ความสำคัญกับทุกธุรกิจและกลุ่มอาชีพทุกภาคส่วน เพราะเรามีความเชื่อว่า ทุกธุรกิจและกลุ่มอาชีพทุกภาคส่วนต่างมีความเชื่อมโยงกันไม่อาจขาดส่วนหนึ่งส่วนใดไปได้ โดยเรามีนโยบายอย่างชัดเจนที่จะให้บริการ ส่งเสริมและสนับสนุนทุกสาขาธุรกิจและทุกสาขาอาชีพอย่างเท่าเทียมกัน เพราะธุรกิจทุกส่วนนั้นต่างมีความสำคัญในการขับเคลื่อนภาคเศรษฐกิจโดยรวมและมีความสัมพันธ์กันทั้งสิ้น ดังนั้น SALERVICE จึงทำหน้าที่เป็นสื่อกลางรวบรวมทุกธุรกิจมาไว้ในที่แห่งเดียวกัน เพื่อให้ผู้ใช้บริการของเราทุกคนเชื่อมั่นว่าจะได้รับความสะดวกสบาย รวดเร็ว และได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนทางธุรกิจ โดยการนำฟีเจอร์ที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์กับทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภคมารวมไว้ในแพลตฟอร์ม 

การรวบรวมทุกธุรกิจมาไว้ในที่แห่งเดียวกันนั้น จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถค้นหาห่วงโซ่อุปทาน     (Supply Chain) ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของตนเอง และนอกจากนี้ ยังทำให้เกิดการจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ได้อีกด้วย แม้ว่าผู้ประกอบการสามารถค้นหาข้อมูลธุรกิจหรือ Supply Chain ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของตนเองได้ในอินเตอร์เน็ตทั่วไป ในกรณีที่ธุรกิจที่กำลังค้นหานั้นมีเว็บไซต์ แต่ข้อมูลที่ปรากฏนั้นเป็นข้อมูลจากผู้จัดทำเว็บไซต์เพียงด้านเดียวเท่านั้น  จึงทำให้ไม่สามารถค้นหาข้อมูลในส่วนประสบการณ์ของผู้ซื้อหรือผู้รับบริการรายอื่นเพื่อนำมาประกอบการพิจารณาตัดสินใจได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากในยุคปัจจุบัน นอกจากประโยชน์ในส่วนของผู้ประกอบการดังกล่าวมาข้างต้น ยังมีประโยชน์กับผู้บริโภคด้วย กล่าวคือ ในเวลาท่องเที่ยวหรือไปสถานที่ต่าง ๆ ที่ไม่รู้จัก ผู้บริโภคหรือนักท่องเที่ยวสามารถค้นหาข้อมูลสินค้าและบริการ และรวมถึงสถานที่ต่าง ๆ ณ สถานที่ที่ไปได้ด้วย ดังนั้น การเดินทางไปยังสถานที่ที่ไม่รู้จัก จึงไม่เป็นอุปสรรคอีกต่อไป

นอกจากที่กล่าวมานี้ SALERVICE ยังมุ่งมั่นที่จะพัฒนาแพลตฟอร์มต่อไป โดยเราจะสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับผู้ประกอบการและผู้บริโภคเพื่อให้ก้าวทันเทคโนโลยีที่ทันสมัยและเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว  ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์ที่สนับสนุนการทำงานและส่งเสริมยอดขายให้ผู้ประกอบการ รวมถึงฟีเจอร์ที่เพิ่มความพึงพอใจและดึงดูดความสนใจของลูกค้า และไม่ลืมที่จะให้ความสำคัญกับการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อพัฒนาคุณภาพของธุรกิจและคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกคนไปพร้อมกัน